สูตรเลือกนโยบาย “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” สำหรับพนักงาน

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund (PVD)

เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินขององค์กรที่ช่วยบังคับให้พนักงานอย่างเราลงทุน เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายยามเกษียณอายุ และถือเป็น “สวัสดิการ” ส่วนหนึ่งที่องค์กรมีให้แก่พนักงาน สำหรับใครที่สงสัยว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไร? สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความ: กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คืออะไร ทำไมพนักงานควรรู้!

แต่ปัญหาที่เราจะมาคุยกันในบทความนี้คือ พนักงานหลายคนไม่รู้ว่าจะเลือกนโยบาย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ของบริษัทตัวเองอย่างไรดี? ต้องเลือกสัดส่วนระหว่างหุ้นกับตราสารหนี้อย่างไรดีถึงจะเหมาะสม? วันนี้มีคำตอบให้ครับ

เลือกสัดส่วนระหว่าง หุ้น กับ ตราสารหนี้ อย่างไร?

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างหุ้นกับตราสารหนี้ก่อน โดย..

  • หุ้น เปรียบเสมือน ทหารแนวหน้า คอยบุกทะลวง คอยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้พอร์ตการลงทุนของเรา แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่สูง
  • ส่วนตราสารหนี้ เปรียบเสมือน หน่วยระวังหลัง คอยป้องกัน หากมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ก็ยังมีตราสารหนี้ป้องกันให้ปลอดภัย (ความเสี่ยงน้อยกว่า)

ซึ่งตามหลักแล้วเมื่อเรามีอายุมากขึ้น เราควรที่จะมีสินทรัพย์เสี่ยงลดลง

ดังนั้น สูตรคำนวณสัดส่วนระหว่างหุ้นกับตราสารหนี้ ที่เหมาะสมกับอายุของแต่ละคน สูตรนั้นก็คือ “100 – อายุปัจจุบัน = สัดส่วนหุ้นในพอร์ต” ซึ่งเท่ากับว่าส่วนที่เหลือคือสัดส่วนของตราสารหนี้

ยกตัวอย่างเช่น

นาย ก พนักงานหนุ่มไฟแรง อายุ 30 ปี เท่ากับว่านาย ก ควรเลือกลงทุน PVD ในสัดส่วน 100 – 30(อายุปัจจุบัน) = 70 หรือก็คือ จัดหุ้นในพอร์ต 70% และตราสารหนี้ 30%

นาย ข พนักงานใกล้เกษียณ อายุ 60 ปี เท่ากับว่านาย ข ควรเลือกลงทุน PVD ในสัดส่วน 100 – 60(อายุปัจจุบัน) = 40 หรือก็คือ จัดหุ้นในพอร์ต 40% และตราสารหนี้ 60%
จะเห็นได้ว่านาย ข มีสัดส่วนหุ้น (สินทรัพย์ความเสี่ยงสูง) ในพอร์ตน้อยกว่านาย ก เนื่องจากมีอายุเยอะกว่า การจัดพอร์ตแบบนี้ช่วยให้เราสามารถรักษาระดับความเสี่ยงในพอร์ตได้อย่างสมดุล เพื่อลดความเสี่ยงจากการนำเงินไปใช้ในช่วงหลังเกษียณได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นนั่นเองครับ