อย่ารีบก่อหนี้จน! ถ้าไม่อยากเดินได้ช้ากว่าคนอื่น

เมื่อพูดถึงคำว่าหนี้” หลายคนมักจัดคำนี้ ไปอยู่ในพจนานุกรมของคนจนเพราะกว่า 9 ใน 10 ของคน มักจะรู้สึกว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องเงินก็ตอนที่มีหนี้แล้วแทบทั้งสิ้น ผมอยากจะบอกความจริงมีอยู่ 2 ข้อ ซึ่งเป็น 2 ข้อที่ผมเจอกับตัวมาจริงๆ คือ

  1. หนี้ ในโลกนี้มีสองอย่าง คือ หนี้รวย กับ หนี้จน (ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังในบทความนี้)
  2. ปัญหาเรื่องเงิน ไม่ได้มีแค่หนี้” การไม่ได้วางแผนเกษียณอายุตัวเองก็เป็นปัญหาเช่นกันนะ และ หลายคนชะล่าใจไปมาก (ซึ่งเดี๋ยวผมจะเขียนในบทความต่อๆ ไปให้อ่านกันครับ)

อะไรคือ หนี้รวย กับ หนี้จน ?

  • หนี้รวย

ก็คือ หนี้สินที่ทำให้รวยขึ้น หรือหนี้ที่ทำให้เงินสดไหลเข้ากระเป๋าตังค์เรา แปลว่า ถ้าเราก่อหนี้นั้นขึ้นมา แล้วสุดท้ายหักลบกันแล้ว มีเงินสดไหลเข้ากระเป๋าก็นับว่าเป็นหนี้รวยซึ่งผมมองว่า มีทั้ง รวยทางตรง คือทำให้เงินสดไหลเข้า และกระแสเงินเป็นบวก เช่น ซื้อบ้านมาทำมาหากิน ซื้อคอนโดมาปล่อยเช่า ซื้อรถมาขับ grab กับ รวยทางอ้อม คือลงทุนในตัวเอง แล้วเอาความสามารถไปสร้างเงินสดต่อในอนาคต เช่น เป็นหนี้เพื่อศึกษาต่อ เป็นต้น

  • หนี้จน

ก็คือ หนี้สินที่ทำให้เราจนลง หรือหนี้ที่ทำให้เงินสดไหลออกจากกระเป๋าตังค์เรานั้นเอง เช่น กู้ยืมมาใช้จ่ายในครอบครัว หนี้พนัน หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด พวกนี้ ล้วนทำให้เงินไหลออก มากกว่า ไหลเข้าครับ

ดังนั้นจะเป็นหนี้รวย หรือ หนี้จน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการสร้างหนี้ และผลลัพธ์ที่เกิดจากการก่อหนี้ของตัวเราเองทั้งนั้นครับ

ก่อหนี้จน แล้วจะเป็นอย่างไร?

ต้องบอกแบบนี้ว่าในช่วง 10 ปีแรกของการทำงาน หรือ การใช้ชีวิตแบบหาเงินเองได้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ ครับ เพราะนั้นคือ ช่วงที่เราใช้เพื่อสร้างชีวิตของตัวเองดังนั้น การสร้างภาระผูกพันยาวๆ หรือ การมีลูกเหล็กหนักๆ ถ่วงไว้ จะทำให้ SPEED ของการใช้ชีวิต ไปได้ช้าลง

ในทางกลับกัน หากในช่วงแรกของการสร้างชีวิตของตัวเองเป็นการสะสมความมั่งคั่ง สร้างทรัพย์สิน สร้างรายได้ ให้รากฐานมั่นคง และเตรียมพร้อมสู่การรองรับภาระหนี้รวยในอนาคต จะเป็นแนวทางที่ปลอดภัยกว่ามากครับ

หนี้ไม่ได้แปลว่าไม่ดีเสมอไป

ต้องบอกว่า บางครั้งการมีหนี้ก็ช่วยให้เราได้ใช้มันเป็นแรงผลักดันให้ตัวเราเองต้องพัฒนา และยกระดับขีดความสามารถของตัวเองเพื่อเอาชนะเกมแห่งชีวิตนี้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ฝึกสร้างวินัยทางการเงินให้กับตัวเองอีกด้วย เพราะ พอมีหนี้แล้ว เราจะมีรายจ่ายประจำเกิดขึ้น ทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบสูงมากขึ้น

อีกมุมนึงคือ การมีหนี้ หากเป็นหนี้รวยจะเป็นช่วยสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่งที่จะเพิ่มกระแสเงินสดให้ไหลเข้ากระเป๋าตังค์เราครับ

แล้วมุมมองที่ดี ของคนที่เป็นหนี้ ต้องเป็นอย่างไร

คนมีหนี้บางคน พอเป็นหนี้แล้วไม่ว่าจะหนี้จน หรือหนี้รวย ก็ตาม ก็มักจะท้อและทุกข์ใจในขณะที่ มีบางคนที่มีหนี้เหมือนกัน แต่กลับกระตือรือร้น มองหาโอกาส มองเห็นหนทางในการแก้ปัญหา และหาสารพัดวิธีเพื่อมาปลดหนี้

เห็นได้ชัดครับว่า 2 คนนี้ มีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนที่กระตือรือร้น รับผิดชอบชีวิตตัวเอง ก็จะขวนขวายหาวิธีมาปลดหนี้ เอาชนะมันซะ! เพราะเค้ามองทุกอย่างเป็นโอกาสที่ make it happen ได้เสมอ

บทสรุป

ถึงตรงนี้ ลองมาสำรวจตัวเองกันดูครับว่า

1) ปัจจุบันเพื่อนๆ มีหนี้อยู่หรือไม่ และ

2) ถ้ามี หนี้ที่เพื่อนๆ มี เป็นหนี้ประเภทไหน ระหว่างหนี้รวยกับหนี้จน

ถ้าคำตอบ คือ ไม่มีหนี้ หรือมีแต่หนี้รวย ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับ และทำนายได้เลยว่าเพื่อนๆ มีโอกาสที่จะร่ำรวยได้ในอนาคต แต่ถ้าเพื่อนมีหนี้ และเป็นหนี้จน ผมขอให้กำลังใจ และอยากชวนมาเริ่มวางแผนสร้างชีวิตบนความมั่นคง และมั่งคั่งไปด้วยกันครับ