เป็น 1 ในความตั้งใจของผมสำหรับปีนี้ ที่ไหนๆ ก็ทำงานด้านการเงินแล้ว ก็อยากจะเล่าเรื่องเงิน โดยหยิบจับเรื่องรอบตัวมาพูดคุยกัน ผ่านมุมมองของมนุษย์เงินเดือนคนนึง ที่มองว่าเรื่องเงิน แท้จริงแล้วก็ไม่ต่างกับ “กติกาชีวิต” เราแค่ต้องรู้ ก่อนลงเล่นแต่ละเกม แล้วเราจะสนุก และไม่สะดุดขาตัวเองครับ
หลายโรงเรียนมักสอนให้เด็กๆ
⇢ ตั้งใจเรียน ⇢ เกรดดี ⇢ เงินเดือนสูงๆ
แต่ลืมบอก หรือสอนว่า “Why” ทำไมเราต้องทำเกรดให้ดี? ทำไมต้องตั้งใจเรียน ถ้าอยากได้เงินเยอะ?
“วิชาหาเงินเก่ง” จึงหายไปจากระบบของการเรียนการสอน มิหน่ำซ้ำนอกจากไม่สอนหาเงินแล้ว ก็ไม่สอนวิธีการ “ใช้เงิน” อีกด้วย จึงไม่แปลกครับ ที่หลายๆ คนใช้เงินไม่เป็น
คำถามสำคัญคือ ทุกวันนี้เรา “ถูกเงินใช้เรา” หรือ “เราใช้เงิน” มากกว่ากัน? เรื่องที่สำคัญและวิกฤตในวันนี้คือ ถ้าวันนี้เราเป็นหนี้ มีหนี้ติดตัวโดยไม่ตั้งใจ หรือถูกหลอกให้ลงทุนประหลาดๆ ไปแล้วเนี่ย เราจะเริ่มต้นแก้ไข และจัดการกับมันยังไงดี นี่ล่ะมั้ง คงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผมถึงอยากลุกขึ้นมาเขียนโพสต์นี้
เรามาดูกันดีกว่าว่า อะไรคือ 5 เหตุผลที่เราต้องมี “ความรู้เรื่องการเงิน”
1. ถ้าโลกนี้มีปัจจัย4, เงินก็คือปัจจัย 0
พูดแบบนี้ ไม่ได้แปลว่า เงินสำคัญกว่าปัจจัยอื่นๆ นะครับ แต่ปัจจุบันนี้ เงินคือส่วนหนึ่งของ
การดำรงชีวิตของเราไปแล้วต่างหากครับ ผมว่าแค่ข้อแรกนี้ข้อเดียว ก็น่าจะมีความสำคัญมากพอที่เราจะต้องมีความรู้เรื่อง “การเงิน” ที่ไม่ใช่แค่เปิดบัญชีเพื่อออมเงิน หรือ ลงทุนในหุ้นเพื่อให้เงินงอกเงย ถ้านึกไม่ออกลองนึกถึง “กระเป๋าตังค์” ของเราดูครับ วันๆ นึงเราหยิบมันกี่รอบ และใช้มันทำอะไรบ้าง นั่นแหละครับ “การเงิน” ที่เราต้องรู้
2. ไร้กังวล .. มีความสุขกับการ ”ใช้เงิน”
พูดแบบนี้ คุณคงตาลุกวาว .. ใช้เงินยังไงให้มีความสุขแน่นอนครับ ทุกคนมีฝันแบบนั้น แต่จะมีแบบนั้นได้จริงๆ คุณต้องมีความรู้การเงินก่อนครับ
กำลังคิดว่า แล้วต้องรู้มากแค่ไหน แค่คิดก็ยากแล้ว ใช่ไหมละ? ถ้าใช่ ผมขอแค่ดูคลิปนี้ให้จบก็พอครับ ได้ไหมแค่ 14.01 นาทีเอง https://www.youtube.com/watch?v=qeiuh5qGZ0E เชื่อผมซิ .. ความสุขจากการใช้เงิน มีจริงๆ ครับ
3. ไม่ประมาท รู้ไว้ไม่เสียเปรียบ
ยุคนี้ ข่าวสาร ความรู้เข้าถึงง่ายครับ อยู่ที่เราจะพยายามเข้าถึงมันรึป่าว ใครจะเก็บเกี่ยว และหาความรู้ได้มากกว่ากัน เคยมีวลีนึงบอกไว้ในหนังสือชื่อดัง “พ่อรวยสอนลูก” ซึ่งเขียนโดย “โรเบิร์ต ที. คิโยซากิ” ว่า “เงินจะไหลไปสู่คนที่มีความรู้ทางการเงินมากกว่าเสมอ”
สิ่งที่ผมพยายามจะบอกคุณก็คือ มันมีทฤษฎีนึงครับที่เรียกว่า “Asymmetric Information” หรือช่องว่างจากการรู้ไม่เท่ากันนั่นเองครับ ในโลกนี้ ใครรู้มากกว่าได้เปรียบครับ ดังนั้นเราอย่าประมาทจะดีกว่า อย่างน้อยที่สุด รู้ให้เท่าคนอื่นก็ยังดีกว่าครับ
4. พึ่งพาตัวเองให้ได้ อย่าไปหวังพึ่งใคร
ทำไมผมถึงพูดแบบนี้? ในสังคมที่ครอบครัวเริ่มเล็กลงเรื่อยๆ ต่างคนต่างอยู่กันมากขึ้น ต่างคนต่างเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น หรือที่เรียกว่า “ปัจเจกบุคคล” ยิ่งเป็นแบบนี้ ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้ได้ และอยากให้บอกตัวเองไว้เลยว่า “เราเนี่ยละ จะเป็นคนที่ให้คนอื่นมาพึ่ง ไม่ใช่เราไปพึ่งคนอื่น” ถ้าทุกคนคิดแบบนี้ได้ ลองคิดดูซิว่าสังคมเราจะน่าอยู่แค่ไหน
5. ช่วยเหลือคนที่รัก โดยเฉพาะครอบครัวของเราเอง
ข้อนี้ผมไว้เป็นข้อสุดท้าย เพราะว่าคุณต้องเห็นความสำคัญของ 1-4 ก่อน ถ้าคุณเข้าใจทั้ง 4 ข้อแล้ว ข้อสุดท้ายนี้ผมอยากให้มองว่ามันคือ โบนัส ครับ
โบนัสที่หลังจากคุณมีความรู้การเงินแล้ว แน่นอนเราจะสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ โดยเฉพาะคนที่คุณรักที่สุด และเป็นรากฐานของสังคมไทยเรา นั้นคือ “ครอบครัว”
สุดท้าย
อยากฝากไว้ว่า การเรียนไม่ได้จบแค่ใบปริญญาที่ได้รับกระดาษหนึ่งใบแล้วก็จบกัน แต่การเรียนรู้สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต เรียนได้ทุกวัน และ ทุกวินาที ที่เราอยากจะเรียน .. วันนี้ลองเปิดใจ เริ่มที่จะเรียนรู้ “การเงิน” ไว้ ก็ไม่เสียหายนะครับผมม

Founder of MoneyStudio.co | อยากเห็น “คนไทยทุกคน” ใช้ชีวิตผ่านทักษะและความรู้ทางการเงินที่ถูกต้อง ต่อยอดความฝันและเป้าหมายได้ในแบบที่ต้องการ