
“เรียนสูง ๆ จบมาจะได้มีงานดี ๆ ทำ”
“เรื่องหาเงินเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ เป็นเด็กแค่ตั้งใจเรียนก็พอ”
ความเชื่อเรื่องเงิน แบบเดิมๆ
เป็นคำสอนที่ผมเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยความที่สังคมไทย ส่งต่อแนวคิดนี้มาโดยตลอด บอกตามตรงเมื่อก่อนผมก็เชื่อแบบนั้น และก็ไม่เคยคิดสงสัย หรือตั้งคำถามเลยว่า “คำสอนเหล่านี้ถูกต้องจริงๆ หรือไม่”
จนได้เจอข่าวเมื่อต้นปี 64 ที่ว่า “โควิด” ระบาดรอบใหม่ ส่อทำหนี้ครัวเรือนปี 64 พุ่งเกิน 91% ของจีดีพี (ข้อมูลอ้างอิง: https://www.prachachat.net/finance/news-585969) ทำให้ผมคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่างว่า.. ถ้าจะเปรียบเทียบชีวิตเราเป็นเกม ก็คงเหมือนกับเกมที่ทุกคนรู้จักกันดีนั่นคือ เกมเรียงโดมิโน่
เพราะการล้มลงของโดมิโน่ เปรียบเสมือนคำสอนจากรุ่นสู่รุ่นที่บิดเบี้ยว และถูกส่งต่อกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งโดมิโน่ตัวสุดท้าย “ล้มลง” นั่นคือ หนี้ครัวเรือน! ที่สูงสุดในรอบ 18 ปี
สาเหตุที่หนี้ครัวเรือนของไทยเป็นปัญหา
เมื่อเราวิเคราะห์เข้าไปถึงสาเหตุของหนี้ครัวเรือนของไทย จะพบว่าหนี้ส่วนใหญ่ของเราเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมากถึง 35% ถ้าเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วอย่างสิงคโปร์และอังกฤษ จะพบว่ามีสัดส่วนหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเพียงแค่ 3% และ 4% เท่านั้น

ที่มาข้อมูล : TMB Analytics
สาเหตุเป็นเพราะทั้งสองประเทศเน้นสร้างหนี้ดี ที่ก่อให้เกิดทรัพย์สินนั่นเอง อย่างเช่นหนี้บ้าน แต่ประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์หรือหนี้บริโภคอยู่ แสดงให้เห็นถึงการขาดความรู้การเงินที่ถูกต้อง ซึ่งเห็นชัดเลยว่าส่งผลกระทบร้ายแรงขนาดไหน
และที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ โดมิโน่ของเกมนี้ไม่ได้วางเป็นเส้นตรงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นโดมิโน่ปลายเปิด ที่มีจุดเชื่อมต่อร่วมกับโดมิโน่แถวอื่นอีกด้วย หมายความว่าเมื่อโดมิโน่แถวหนึ่งล้ม ก็จะพาโดมิโน่แถวอื่นๆ ล้มตามกันไปหมด ส่งผลทำให้ปัญหาการเงินกระจายออกไปเป็นวงกว้าง
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น เช่น
- พี่ที่เอาบ้านน้องไปค้ำประกันซื้อรถยนต์ สุดท้ายจ่ายหนี้ไม่ไหวต้องขายบ้านเข้าตลาด
- คุณหมอที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ลงทุนอยู่เป็นแชร์ลูกโซ่ เลยไปชวนพยาบาลมาลงทุนทั้งวอร์ด
- ข้าราชการที่ช่วยค้ำประกันหนี้สหกรณ์ให้กันและกัน คนนึงล้มที่เหลือก็ล้มตามกันหมด
- พ่อแม่ที่ไม่วางแผนลงทุนเพื่อเกษียณ เลยต้องพึ่งเงินลูกในยามชรา และอื่นๆ อีกมากมายในสังคมไทย

ภาพจาก Domino Rally 25 | Hevesh5
บทสรุปของเกมนี้ ถ้าจะถามหา “คนผิด” ผมมองว่าคงเป็นทุกคน ทุกรุ่นที่ปลูกฝังกันมาไม่ว่าจะเป็น
- พ่อแม่ สอนลูก
- ครูสอนนักเรียน
- เพื่อนสอนเพื่อน
- หัวหน้าสอนลูกน้อง
- สังคมสอนเรา
มุมกลับ ทำไมเราเอาแต่โทษคนอื่น และไม่ลองมองย้อนกลับมาดูตัวเอง ว่าได้ทำอะไรเพื่อทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นหรือยัง
- ไม่ได้ระวังการใช้จ่าย » ใช้จ่ายระมัดระวังมากขึ้น
- ไม่มีภูมิคุ้มกันด้านการเงิน » ปรับตัว เรียนรู้ พัฒนาความรู้การเงินเสมอ
- ไม่มีใครเตือนใคร » ส่งต่อความรู้การเงินที่ถูกต้อง และช่วยกันเผยแพร่เรื่องนี้
คำถามคือ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะ “หยุด” ความเชื่อเรื่องเงิน และการล้มลงของโดมิโน่เหล่านี้…
โดมิโน่ตัวแรก ที่ถูกต้อง หน้าตาเป็นอย่างไร?
ไม่ใช่แค่มีความรู้การเงินและความเชื่อเรื่องเงินที่ถูกต้อง แต่ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบทางการเงิน และวินัยทางการเงินด้วย ถ้าจะเริ่มต้นเกมนี้ใหม่ ให้ชนะและรวดเร็ว เราคงต้องเล่นพร้อมกัน “ทุกวัย” ให้เป็นหน้าที่ที่ “ทุกคน” ต้องช่วยกัน เพราะในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาการเงินนั้นมีอยู่ทุกช่วงวัย และนี่จะเป็นการวาง Domino ตัวใหม่ ตัวแรก ที่แข็งแรงยิ่งกว่าเดิม
วัยเด็ก
ตัวอย่าง
ปัญหาที่เจอ
ตัวอย่าง
สิ่งที่ควรทำ
- ใช้เงินไม่ถูกต้อง ไม่เข้าใจคุณค่าของสินค้า
- นับเงินทอนผิด
- ขอเงินค่าขนมพ่อแม่เพิ่ม
- สอนให้รู้จักมูลค่าและคุณค่าของเงิน ใบนี้ 20 ใบนี้ 1000
- พ่อแม่ฝึกให้ไปซื้อของ โดยกำหนดเป้าค่าใช้จ่าย
- บริหารจัดการค่าขนมเองได้ให้พอใช้ภายใน 1 อาทิตย์
วัยเรียน
ตัวอย่าง
ปัญหาที่เจอ
ตัวอย่าง
สิ่งที่ควรทำ
- ติดเพื่อน ติดเกม ใช้เงินในทางไม่จำเป็น
- ซื้อของฟุ่มเฟือย ตามกระแส #ของมันต้องมี
- เพื่อนชักชวนเล่นพนันฟุตบอล
- เข้าใจผลของตัวเลือกในการใช้เงิน (แยก NEED & WANT)
- ตั้งงบประมาณ ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
- ตั้งเป้าหมายหมายทั้งการเรียนและการเงิน
- หารายได้พิเศษ ระหว่างเรียน
- เริ่มศึกษาเรื่องการออมในเครื่องมือทางการเงิน เรื่องลงทุน ลงทุนในสินทรัพย์
วัยเริ่มทำงาน
ตัวอย่าง
ปัญหาที่เจอ
ตัวอย่าง
สิ่งที่ควรทำ
- ค่าใช้จ่ายการเข้าสังคม (ภาษีสังคม)
- ก่อหนี้บริโภคต่างๆจนเกินตัว
- ไม่มีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน
- ไม่เก็บออมเพื่อเกษียณ
- ตั้งงบประมาณ ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
- หักเก็บ 5% เพื่อเอาไว้ซื้อของที่อยากได้
- เก็บเงินสำรองฉุกเฉินให้ได้ 3-6 เดือน
- ศึกษาและเริ่มลงทุนเพื่อแผนเกษียณอายุ
วัยสร้างครอบครัว / สร้างตัว
ตัวอย่าง
ปัญหาที่เจอ
ตัวอย่าง
สิ่งที่ควรทำ
- ไม่วางแผนซื้อประกันชีวิต สุขภาพ
- แต่งงาน โดยไม่วางแผน
- ไม่วางแผนเรื่องการศึกษาบุตร
- ไม่นำเงินไปลงทุน
- วางแผนทำประกันเพื่อคุ้มครองตัวเองและคนข้างหลัง
- ลงทุนเพื่อการศึกษาบุตร
- ซื้อประกันออมทรัพย์ ประกันสุขภาพให้บุตร
- หาช่องทางลงทุนอื่นๆเช่น ทำธุรกิจ ลงทุนกองทุนรวม
วัยเกษียณ
ตัวอย่าง
ปัญหาที่เจอ
ตัวอย่าง
สิ่งที่ควรทำ
- เงินไม่พอเกษียณ
- ไม่มีประกันสุขภาพ
- เติมเต็มความสุข ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และ ครอบครัว
- มีเหลือพอ เป็นมรดกเตรียมพร้อมให้คนข้างหลัง
สิ่งที่อยากให้คนไทยตระหนักมากขึ้น
สุดท้ายจากเรื่องของโดมิโน่ ผมอยากให้ทุกคนตระหนักได้ถึง 2 เรื่องด้วยกัน
1. เรื่องเงินเป็นเรื่องส่วนบุคคล
“เงินของพ่อแม่ไม่ใช้เงินสำรองฉุกเฉินสำหรับลูก และเงินของลูกก็ไม่ใช่เงินยามเกษียณของพ่อแม่” ปลายทางสุดท้ายของเกมนี้ ไม่ควรต้องมีใครเป็นภาระหรือพึ่งพาใครเรื่องเงิน แม้จะเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ละคนควรดูแลและยืนอยู่ได้ด้วยการบริหารจัดการเงินของตัวเองที่ดีพอ ซึ่งการที่ผมพูดแบบนี้ไม่ได้แปลว่า ห้ามส่งเงินให้พ่อแม่ตัวเองนะ แต่ควรดูแลท่านแบบพอดี และไม่หนักจนเกินตัว
2. ความรู้การเงิน คือ เกราะป้องกันตัวชั้นดี
ในปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตทำให้โลกของเราหมุนเร็วมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ เช่น คริปโทเคอร์เรนซี หรือกลยุทธ์การหลอกลวงเงินรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้นวิธีการสอนแบบเดิมที่ส่งต่อกันมา ไม่สามารถใช้ได้ผลแล้ว เหมือนกับการรับโดมิโน่ตัวเก่าที่ไม่แข็งแรง มาวาง และพร้อมจะล้มลงได้ตลอดเวลา
ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้โดมิโน่ตั้งอยู่ได้นานและมั่นคง คือการส่งต่อ “ความรู้การเงิน” ที่ถูกต้อง
แต่เมื่อความรู้การเงินที่ถูกต้อง ไม่มีสอนในโรงเรียน Money Class จึงเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นสถาบันสอนความรู้การเงิน ให้กับคนไทยทุกช่วงวัย ตั้งแต่ เด็ก จนวัยเกษียณ เพื่อยกระดับสุขภาพการเงินของคนทั้งประเทศให้ดียิ่งกว่าเดิม
เราจะทำหน้าที่ ช่วยเพื่อน ๆ ตั้งโดมิโน่ตัวแรกให้แข็งแรง ถูกต้อง และเปลี่ยนแปลงสังคมการเงินไทยให้ดีกว่าเดิมไปด้วยกัน

Founder of MoneyStudio.co | อยากเห็น “คนไทยทุกคน” ใช้ชีวิตผ่านทักษะและความรู้ทางการเงินที่ถูกต้อง ต่อยอดความฝันและเป้าหมายได้ในแบบที่ต้องการ